หลังจากบทความที่แล้วมีการทิ้งท้ายด้วยบทเพลง
If
I Die Young ไป บทความนี้ผู้เขียนเลยอยากจะนำเสนอบทเพลงอื่น ๆ
บ้างค่ะ
เพื่อบอกว่าเราสามารถเรียนรู้ภาษาได้ตลอดเวลาไม่จำเป็นว่าต้องอยู่ในเวลาเรียนหรือแค่ในห้องเรียนเท่านั้นค่ะ
แต่ว่าถ้ามาเรียนรู้ภาษาจากเพลงแล้วจะได้อะไร
การเรียนรู้จากบทเพลงหรือสื่อมีเดียต่าง ๆ
จะมีข้อดีอยู่อย่างคือเราเลือกในสิ่งที่เราสนใจที่จะรู้ค่ะ บางครั้งความรู้นั้น ๆ
อาจจะเป็นของแถมมาด้วยซ้ำ แต่ผู้เขียนก็ขอแนะนำวิธีนี้ไว้ใช้เพื่อผ่อนคลายตัวเองได้ด้วยค่ะ สำหรับผู้เขียนคิดว่าสิ่งที่เราได้มาจากเหตุการณ์รอบตัวเรามักจะสามารถจดจำและนำมันไปใช้ได้ดีกว่าการท่องจำอย่างเดียวค่ะ
เพลงแรก เป็นเพลงของKaty Perry –
This Is How We Do
ในเพลงนี้จะมีสำนวนประมาณว่า
“It’s no big deal.” ซึ่งแปลว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย
ก็ชีวิตฉันเป็นแบบนี้ไม่จำเป็นต้องไปทำตามคนอื่นเลย
ถ้าสนใจเนื้อหาแบบเต็มสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ด้วยตัวเองเลยค่ะ
เพลงต่อมาก็ขอนำเสนอเพลงที่ชอบของตัวเองเช่นกันค่ะ
เป็นเพลงของ Ronan
Keating – When You Say Nothing At All
เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินกันมาบ้างหรือถ้าไม่ก็ลองฟังดูได้นะคะ
โดยส่วนตัวชอบเพลงมากค่ะเพราะทำนองที่ฟังสบายแล้วก็เสียงร้องค่ะที่ทำให้ฟังดูสบาย
ๆ รื่นหูไปอีก
แต่นอกจากท่องทำนองและเนื้อร้องจากเพลงนี้แล้วนั้นก็คือเนื้อหาของเพลงค่ะ
เพลงนี้มีเนื้อหาที่ไม่ซับซ้อนสามารถเข้าใจได้โดยง่ายค่ะ เรามาเริ่มจากชื่อเพลงกันก่อนนะคะ When You Say
Nothing At All จำไว้นะคะว่าภาษาอังกฤษก็คือภาษาอังกฤษอาจมีความคล้ายคลึงกันกับภาษาไทยได้แต่ไม่ทางเหมือนกันไปหมดอย่างแน่นอนค่ะ ถ้าแปลกันแบบตรงตัวหน่อยอาจได้ว่า เมื่อคุณพูดไม่มีอะไรเลย
ก็ดูจะมีความหมายที่เข้าใจได้ในตัวอยู่นะคะเพียงแต่ว่าผู้ส่งสารไม่ได้ต้องการอย่างนั้นค่ะ
และการแปลแบบตรงตัวนี้ก็ไม่สามารถใช้ได้ไปตลอดด้วยนะคะ ดังนั้นชื่อเพลงเลยอาจมีใจความว่า เมื่อคุณไม่ได้พูดอะไรเลย แบบนี้ดูน่าจะเหมาะและเพราะกว่าค่ะ
จุดประสงค์ของการสร้างบล็อกนี้ขึ้นมาก็เพื่อบอกเล่าทริคเล็ก
ๆ น้อย ๆ ที่ผู้เขียนสังเกตและศึกษาเองนะคะ เพราะฉะนั้นผู้เขียนจะไม่แปลทั้งเพลงแน่ค่ะเพราะสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ด้วยตัวเองอยู่แล้ว
เพียงแต่ผู้เขียนอยากจะแบ่งปันความคิดเห็นของผู้เขียนเท่านั้นค่ะ
สิ่งที่ผู้เขียนอยากนำเสนอ คือ
โครงสร้างภาษา ซึ่งในเพลงนี้ขอเสนอ 2 อย่างที่เข้าใจได้โดยง่ายค่ะ
อย่างแรกคือการใช้ Say nothing ค่ะ ทำไมถึง say nothing มันคืออะไร
พูดแต่พูดว่าไม่มีอะไรเหรอคือถ้าเราเข้าใจและแปลอย่างนี้จะทำให้เนื้อหาข้อมูลผิดพลาดไปได้แน่ค่ะ การใช้คำแบบนี้เป็นลักษณะเฉพาะที่ถ้าสังเกตดี ๆ
ในภาษาอังกฤษจะมีแบบนี้เยอะมากค่ะ
ขึ้นอยู่กับว่าเราใช้ Verb ตัวไหนค่ะ อย่างเช่นประโยค I have no money. เราสามารถแปลได้ว่าฉันไม่มีเงินไปเลยค่ะ
ไม่ต้องมาแปลฉันมีไม่เงิน
แบบนี้จะทำให้งงไปกันใหญ่นะคะ
แล้วถ้าเราอยากใช้แค่ I don’t have money. ล่ะ
ก็ใช้ได้ค่ะเพราะความหมายก็ในทำนองว่าไม่มีเงินเหมือนกัน แต่ผู้เขียนคิดว่าแบบที่สองจะเป็นในเชิงตอบปฏิเสธมากกว่าค่ะ
อย่างแรกเราใช้เป็นประโยคบอกเล่าในตัวได้เลยค่ะส่วนอีกอย่างคือคำว่า at all ค่ะ ซึ่งมีความโดยเข้าใจง่ายว่า เลย ค่ะ อย่างเช่น I don't it at all. ซึ่งสามารถแปลได้ว่าฉันไม่ชอบมันเอาซะเลย อย่างนี้เป็นต้นค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น