หลังจากบทความที่แล้วมีการทิ้งท้ายด้วยบทเพลง
If
I Die Young ไป บทความนี้ผู้เขียนเลยอยากจะนำเสนอบทเพลงอื่น ๆ
บ้างค่ะเพื่อบอกว่าเราสามารถเรียนรู้ภาษาได้ตลอดเวลาไม่จำเป็นว่าต้องอยู่ในเวลาเรียนหรือแค่ในห้องเรียนเท่านั้นค่ะ
เพลงต่อมาก็ขอนำเสนอเพลงที่ชอบของตัวเองเช่นกันค่ะ
เป็นเพลงของ Ronan
Keating – When You Say Nothing At Allเชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินกันมาบ้างหรือถ้าไม่ก็ลองฟังดูได้นะคะโดยส่วนตัวชอบเพลงมากค่ะเพราะทำนองที่ฟังสบายแล้วก็เสียงร้องค่ะที่ทำให้ฟังดูสบาย
ๆ รื่นหูไปอีก
แต่นอกจากท่องทำนองและเนื้อร้องจากเพลงนี้แล้วนั้นก็คือเนื้อหาของเพลงค่ะ
เพลงนี้มีเนื้อหาที่ไม่ซับซ้อนสามารถเข้าใจได้โดยง่ายค่ะเรามาเริ่มจากชื่อเพลงกันก่อนนะคะ When You Say
Nothing At Allจำไว้นะคะว่าภาษาอังกฤษก็คือภาษาอังกฤษอาจมีความคล้ายคลึงกันกับภาษาไทยได้แต่ไม่ทางเหมือนกันไปหมดอย่างแน่นอนค่ะถ้าแปลกันแบบตรงตัวหน่อยอาจได้ว่า เมื่อคุณพูดไม่มีอะไรเลย
ก็ดูจะมีความหมายที่เข้าใจได้ในตัวอยู่นะคะเพียงแต่ว่าผู้ส่งสารไม่ได้ต้องการอย่างนั้นค่ะและการแปลแบบตรงตัวนี้ก็ไม่สามารถใช้ได้ไปตลอดด้วยนะคะดังนั้นชื่อเพลงเลยอาจมีใจความว่าเมื่อคุณไม่ได้พูดอะไรเลย แบบนี้ดูน่าจะเหมาะและเพราะกว่าค่ะ
อย่างแรกคือการใช้ Say nothingค่ะ ทำไมถึง say nothing มันคืออะไร
พูดแต่พูดว่าไม่มีอะไรเหรอคือถ้าเราเข้าใจและแปลอย่างนี้จะทำให้เนื้อหาข้อมูลผิดพลาดไปได้แน่ค่ะการใช้คำแบบนี้เป็นลักษณะเฉพาะที่ถ้าสังเกตดี ๆ
ในภาษาอังกฤษจะมีแบบนี้เยอะมากค่ะขึ้นอยู่กับว่าเราใช้ Verb ตัวไหนค่ะอย่างเช่นประโยค I have no money.เราสามารถแปลได้ว่าฉันไม่มีเงินไปเลยค่ะ
ไม่ต้องมาแปลฉันมีไม่เงินแบบนี้จะทำให้งงไปกันใหญ่นะคะแล้วถ้าเราอยากใช้แค่ I don’t have money. ล่ะ
ก็ใช้ได้ค่ะเพราะความหมายก็ในทำนองว่าไม่มีเงินเหมือนกันแต่ผู้เขียนคิดว่าแบบที่สองจะเป็นในเชิงตอบปฏิเสธมากกว่าค่ะ
อย่างแรกเราใช้เป็นประโยคบอกเล่าในตัวได้เลยค่ะ ส่วนอีกอย่างคือคำว่า at all ค่ะ ซึ่งมีความโดยเข้าใจง่ายว่า เลย ค่ะ อย่างเช่น I don't it at all. ซึ่งสามารถแปลได้ว่าฉันไม่ชอบมันเอาซะเลย อย่างนี้เป็นต้นค่ะ
ตามธรรมเนียมผู้เขียนนะคะ
ครั้งนี้ขอปิดท้ายบทความไปด้วยบทเพลง ชื่อว่า If I Die Young ของ The
Band Perryที่มาของเพลงนี้คือลูกพี่ลูกน้องของผู้เขียนชอบฟังค่ะเลยติดหูมาด้วยตอนแรกก็คิดว่าเป็นเพลงสบาย ๆ
ดีค่ะคิดว่าเกี่ยวกับความรักประมาณนั้นจนพอตั้งใจฟังดี ๆ แล้ว
ศึกษาเนื้อหาดูแล้วถึงได้ทราบความหมายของเนื้อเพลงค่ะซึ่งเพลงนั้นมักจะสีเสน่ห์ในตัวอยู่อย่างค่ะ
คือเราสามารถตีความได้ต่างกันออกไปเลยอยากมาแบ่งปันเพลงนี้กันค่ะ